ความคืบหน้ากรณี สิบตำรวจเอกธีรยุทธ จันทร์คง อายุ 31 ปี ผู้บังคับหมู่งานป้องกันและปราบปรามสถานีตำรวจนครบาลดุสิต ชาว จ.สุราษฎร์ธานี ใช้อาวุธปืนก่อยิง นายปิยะพงษ์ รุ่งวิทยากุล หรือเอ้าท์ อายุ 28 ปี เจ้าหน้าที่องค์การเภสัชกรรม เสียชีวิตคาโรงพัก สน.ดุสิต ขณะนั่งสังสรรค์ฉลองเทศกาลปีใหม่กับกลุ่มเพื่อน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 31 ธ.ค.63 เวลาประมาณ 23.30 น ที่ผ่านมา
โดย เพื่อนของผู้ตาย ซึ่งนั่งสังสรรค์กับผู้ตายในคืนเกิดเหตุ เล่าว่า ระหว่างนั่งกินดื่มกันอยู่ 10 กว่าคน โดยตำรวจที่ก่อเหตุรู้จักกับตนได้ตามมานั่งกินด้วย และหลังจากจับของขวัญเสร็จในช่วง ผู้ตายกับเพื่อนอีกคนหยอกล้อเล่นตบศีรษะกัน ตำรวจที่ก่อเหตุได้เตือนว่า “เฮ้ย ทำไมเล่นกันแบบนี้ เล่นกันรุนแรง” ซึ่งระหว่างนั้นอยู่ในอาการมึนเมาทั้งคู่ ผู้ตายจึงได้หันกลับไปพูดบางอย่าง ทำให้ฝ่ายตำรวจเหมือนโดนดูถูก แต่ก็ทำเพียงเดินกลับไปที่วงเหล้าของตัวเอง ตนจึงคิดว่าจบเรื่องแล้ว แต่แล้วตำรวจก็เดินกลับมาอีกครั้งพร้อมปืน เริ่มมีปากเสียงกันชุลมุล เพื่อนๆพยายามช่วยกันห้าม ตำรวจจึงเปิดฉากยิง 2 นัด แต่ไม่โดนใคร จังหวะนั้นมีการล้ม และยิงรัวๆ จนกระสุนถูกผู้ตายเสียชีวิตในจุดเกิดเหตุ
ส่วนผู้ที่พักอาศัยอยู่ในแฟลตตำรวจ สน.ดุสิต เล่าว่า ตำรวจที่ก่อเหตุนำเงินมาให้ตนเอง 500 บาท ไปร่วมจับของขวัญปีใหม่กับกลุ่มผู้ตาย โดยให้ตนไปจับสลากแทน ซึ่งจับรางวัลได้กระเป๋าของผู้ตาย ตนก็นำมามอบให้ตำรวจที่ก่อเหตุ เขายังบอกเลยว่ากระเป๋าสวยดี เหมาะจะนำไปเก็บปืน
ขณะที่ ทางแหล่งข่าวตำรวจ ระบุว่า ให้การว่ายอมรับว่าตนเองอยู่ในอาการเมา แต่เมาไม่มากยังมีสติรู้สึกตัวดี ขณะที่ตนนั่งดื่มกินกับกลุ่มผู้ตาย ได้ห้ามปรามไม่ให้ผู้ตายทะเลาะกับเพื่อน แต่ผู้ตายพูดว่า "เสือก" ตนทนไม่ไหวจึงเกิดการทะเลาะกัน ยิงปืน 2 นัดแรกขึ้นฟ้าเพื่อขู่ ไม่ได้ตั้งใจจะยิงโดนใคร แต่กลุ่มผู้ตายมีเยอะและวิ่งตามพยายามจะทำร้าย ซึ่งตนเองอยู่คนเดียว จึงยิงเพื่อป้องกันตัว ไม่ได้มีเจตนายิงใครตั้งแต่แรก จังหวะนั้นชุลมุนมาก มารู้ทีหลังว่าโดนคนเสียชีวิต
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนแจ้ง 3 ข้อหา ในความผิดฐานพกพาอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต ,ยิงปืนในที่สาธารณะ, ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา
ทางด้าน ครอบครัวของผู้เสียชีวิต ได้นิมนต์พระสงฆ์มาทำพิธีอัญเชิญดวงวิญญาณนายปิยะพงษ์ หน้า สน.ดุสิต
โดยมารดาของผู้ตาย บอกว่า “แม่อยากถีบยอดหน้ามัน ไม่อยากถามหรือพูดอะไรกับมันทั้งนั้น” พร้อมทั้งเล่าถึงลางก่อนเกิดเหตุ ที่ผ่านมา 31 ธ.ค. ลูกชายจะไปหาตนที่บ้าน แต่ปีนี้ลูกชายขอมาสังสรรค์กับเพื่อน ตนพูดด้วยความน้อยใจว่าถ้าไม่มาหาแม่ก็ไม่ต้องมาแล้ว จึงรู้สึกว่าคำพูดของตนเหมือนเป็นลาง
ขณะที่บิดาของผู้ตาย บอกว่า ผู้ก่อเหตุทำเกินกว่าเหตุ ทำไมต้องชักปืนออกมายิง ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด อยากให้ประหารชีวิตไปเลย
พันตำรวจเอก จตุพร พลภักดี ผู้กำกับการ สน.ดุสิต ยืนยันว่าเป็นการก่อเหตุหลังจากออกเวร ไม่ได้ไปอยู่ในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ ดยผู้ต้องหาให้การรับว่าเป็นผู้ก่อเหตุยิงจริง ส่วนเรื่องสาเหตุต้องไปดูที่สำนวนการสอบสวนต่อไป